เคยคิดไหมว่านะเวลานี้ที่คุณอยู่กับคนรักของคุณหรือ กำลังคบหาดูใจกันอยู่ ว่าเขานั้นจะใช่คู่ของคุณหรือเปล่า หากคุณเป็นคนหนึ่งที่นั่งนอนคิดว่าสามีหรือแฟนของคุณนั้นจะใช่เนื้อคู่คุณไหม ลองมาดูสิ่งที่เรานำมาบอ กวันนี้แล้วเปรียบเทียบดูว่าคู่ของคุณเป็นเช่นนี้หรือเปล่า กับ 7 สิ่งที่บอ กว่าคุณและเขาเกิดมาเป็นเนื้อคู่กันจริง จะเป็นอ ย่ างไรเราไปดูกันเลย
คุณเคยได้ยินประโยคที่คุ้นหูกัน มั้ยว่า คู่กันแล้ว คงไม่แคล้วกันหรอ ก เพราะคนเก่าแก่เชื่อว่า ถ้าใครที่เป็นเ นื้ อ คู่กันนั้น มักมี ด ว งสัมพันธ์กันอยู่ ไม่ว่าจะภพไหนชาติไหน ก็ย่อมกลับมาเป็นคู่รักกันเสมอ คุณและเขาอาจเป็น เ นื้ อ คู่กัน มาตั้งแต่ชาติปางก่อน หรือเรียกง่ายๆ เป็นบุพเพสันนิวาส ทำให้ได้กลับมาเจอ กันอีกครั้ง
1. ระยะทางไม่สามารถทำอะไรความรักของคุณทั้งสองได้
หรือแม้มีอุปสรรคใดมาขวางกั้น คุณและเขาก็อุ่นใจทุกครั้ง ที่นึกถึงกัน เหมือนกับว่าจิตใจผูกพันกัน มากกว่าร่างกาย
2. คุณและเขามีความสุขมากกว่าความทุ ก ข์ที่ร่วมกัน
บางครั้งไม่ต้องพูด ก็สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร เป็นสิ่งที่บอ กได้ว่าคุณและเขาใจตรงกัน มานานแล้ว
3. แม้คุณและเขาจะมีปากเ สี ยงหรือ ท ะ เ ล า ะ กัน
ก็ไม่มีทางทิ้งกันไปไหน สุดท้ายแล้ว ก็ปรับความคิดให้เข้าใจกันได้ดีเช่นเดิม
4. แม้พบเจอ กันครั้งแรก คุณและเขากลับสนิทกันได้เร็ว
เพราะเกิดจากความรู้สึกภายในที่ผูกพัน มานาน ทำให้คุณทั้งคู่รู้สึกสุขใจ มีความสุขตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ
5. คุณและเขามักมีความคิดที่เหมือนๆกัน
ประหนึ่งว่าเป็นคนๆ เดียวกัน มีใจตรงกันอ ย่ างบอ กไม่ถูก ในลักษณะที่มีความคิดคล้ายๆกันไม่ใช่การ พย าย ามเลียนแบบจะเป็นเหมือนอีกคนนะ
6. คุณและเขาเข้ากันได้ดีมากๆ
เป็นส่วนที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือนแจกันกับดอ กไม้ เช่น คนหนึ่งมักใจร้อนเป็น ฟื น ไ ฟ แต่อีกคนเป็นคนใจเย็นนิ่งดั่งสายน้ำ
7. คุณและเขามักจะชวนกันเข้าวัดทำบุญ
หรือทำสิ่งดีๆ ร่วมกันเป็นผลบุญแต่ปางก่อน ที่ทำให้ได้ย้อนกลับมาพบเจอ กันอีกครั้งแต่ถ้าความรักครั้งนี้ของคุณ อาจจะไม่ใช้ เ นื้ อ คู่ กัน มาก่อนในชาติที่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หรือสิ่งที่จะมาขวางความรักของคุณได้
ขอให้อยู่ด้วยกันด้วยความเข้าใจ และหมั่นทำความดีอยู่คู่กันไปเช่นนี้ ก็ถือว่าเป็นความรักที่ดีมากแล้ว ศีลเสมอ กัน วิ ธีดูเนื้ อคู่ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้ การเลือ ก เ นื้ อ คู่จึงแยกออ กเป็น 4 ข้ อหลักๆ
1. มีศีลเสมอ กัน
ศีลเสมอ กัน เป็นสิ่งที่คนพูดถึงกันบ่อยนัก เวลาจะมองหาคู่ครองต้องให้มีศีลเสมอ กันอธิบายง่าย ๆ คือคนที่รั ก ษ าศีล รู้จักยับยั้งชั่งใจ พากันไปสู่สิ่งดีงาม ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่นขึ้น แต่ถ้าสองคนนั้น มีศีลไม่เสมอ กันแล้ว ก็เป็นเรื่องย ากที่จะอยู่ด้วยกันได้
ในเรื่องศีลเสมอ กัน ดูง่าย ๆเลยนะ คนที่ชอบทำบุญรั ก ษ าศีล ถ้าเจอคู่ครองที่ไม่ รั ก ษ าศีล หรือศีลน้อยกว่า เช่น ชอบการ พ นั น ตกเย็นคว้า ข ว ด เ ห ล้ า หรือทำอาชีพที่ไปทำ ร้ า ย สั ต ว์ ตั ด ชีวิต ก็ย่อมไม่ฟังในสิ่งที่เราพูดเรา เ ตื อ น ทำให้มีเรื่องไม่เข้าใจกันง่าย ถ้าเราเจอคู่ที่มีศีลเสมอ กันพากันเข้าวัด ทำบุญ ทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน
2. ศรัทธาเสมอ กัน
ถ้าเรามีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน เราก็จะมีมุมมองในเรื่องเดียวกัน ข้ อ ดีหลัก ๆ คือ เราจะไม่ ท ะ เ ล า ะ และอย ากเอาชนะกั นและกัน ไม่เถียงเพื่อให้ความเชื่อของเราชนะอีกฝ่ายนั้น
ทำให้ครองคู่กันได้นาน อยู่เย็นเป็นสุขตลอ ดไป นอ กจากเรื่องศรัทธาเสมอ กัน อีกอ ย่ างที่สำคัญนั้น คือความชอบและรสนิยม ถ้าตรงกันแล้ว ก็จะล ดความ ขั ด แ ย้ ง ล ดเรื่องที่ต้อง ท ะ เ ล า ะ ในแต่ละวันได้
พระพุทธองค์ได้ชี้ทางสว่างให้กับคนที่จะมาเป็นคู่ครองกัน สองคนนั้นควรต้องมีความเชื่อเสมอ กัน ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น เชื่อในหลักศาสนาเดียวกัน เพราะหากไม่เชื่ออะไรที่เหมือนกัน ก็จะอยู่ด้วยกันแบบชีวิตไม่ สงบสุขแน่นอน
ทั้งนี้ ถ้าเป็น เ นื้ อ คู่ประเภทคู่เวรคู่ก ร ร มกันแล้ว ทั้งคู่มาที่มาพบกันก็เพราะมีก ร ร มลิขิต วิบากก ร ร มที่ได้กำหนดไว้แล้ว มีเป้าหมายให้คนทั้งคู่มาช ดใช้วิบากก ร ร ม ของคนทั้งคู่ที่มีต่อ กัน ให้หมดสิ้ นกันไป
ซึ่งจะนานหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับวิบากก ร ร มนั้นจะหนักหรือจะเบา เมื่อหมดแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป หรือคู่ที่เลิกรากันไป เปลี่ยนคู่บ่อย ๆ ก็อาจจะเป็น เ นื้ อ คู่กันในปางก่อนจริง มาเกื้อ กูลกันบ้างในชาติปัจจุบันจริงๆ แต่เมื่อบุญที่ทำร่วมกัน มัน มานั้น มีน้อย ใช้บุญกันไปจนหมดแล้วไม่มีทำบุญเพิ่มเลย ถึงเวลาก็ต้องแยกย้ายกันไปนั่นแหละ
3. จาคะเสมอ กัน
จาคะมีความหมายว่าการสละสิ่งของและความสุขส่วนตน เพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่นหมายรวมถึงการสละละทิ้ง กิ เ ล ส ตลอ ดถึงความประพฤติของตนที่ไม่ ดี ที่ทำให้เกิดความเสี ยห า ย จะเห็นว่า คนที่มีจาคะ ย่อมเสี ยสละเพื่อส่วนรวมได้ มีความเอื้ออาทรต่อความทุ ก ข์ย าก
คอยให้ความช่วยเหลือ กับผู้อื่น ไม่เห็น แ ก่ ตัว ถ้าคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอ กัน คงเป็นเรื่องย ากที่จะทำความเข้าใจว่า เพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือผู้อื่น คงจะดีไม่น้อยนะ ถ้าเราเลือ กครองคู่กับคนที่มีจาคะที่เสมอ กัน เป็นคนใจกว้าง ชอบทำบุญ และช่วยคนอื่น
โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนได้เหมือนๆ กัน เมื่อเรารักจะเป็นผู้ให้ ก็จะอิ่มอ กอิ่มใจที่ได้ให้แล้วยังรับรู้ถึงความสุขใจ เมื่อมองเห็นผู้รับยิ้มแย้ม พอใจ ทำให้ความสุขของผู้ให้เพิ่มขึ้นอีกด้วยนะ
4. ปัญญาเสมอ กัน
ปัญญาเสมอ กันเป็นอ ย่ างไรกัน พระราชพรหมย านหรือหลวงพ่อฤาษีลิ งดำ พระอริยสงฆ์องค์หนึ่งของเรานั้นเมื่อ ครั้งหนึ่งท่านได้ตอบคำถามให้กับลูกศิษย์ เมื่อลูกศิษย์คนนั้นถามท่านว่า ปัญญาคืออะไร ท่านจึงได้ตอบไปว่า ปัญญา ความหมายทั่วไป
แปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณา แปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้ มิใช่รู้เพียงอ ย่ างเดียว ต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้น มาพิจารณาด้วย มิใช่ฉลาดอ ย่ างเดียว แต่ต้องมีเฉลียวใจด้วย พระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่องของการที่จะมาเป็นคู่ครองกัน
ต้องมีปัญญาเสมอ กัน ถ้าใกล้กัน มากก็จะยิ่งมีความสุข ความเจริญ ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เพราะเนื่องด้วย ความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกัน ไม่เพียงแต่ศีลเสมอ กันเท่านั้น การมีศรัทธาที่เสมอ กัน
จาคะเสมอ กัน และปัญญาเสมอ กันนั้น ก็จะช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันแบบมีความสุข วิ ธีดูเนื้ อคู่และการเลือ กคู่ครองอันเหมาะสม จึงจำเป็นต้องอาศัยทั้ง4ข้ อนี้เป็นสำคัญนะ
ที่มา san-sabai