วันที่ 23 เม.ย.2566 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายบุญศรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี, นายแสวง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี และ น.ส.ราตรี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี โดยทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน อยู่บ้านพักในพื้นที่ ต.หัวนาคำ อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวโดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมืองหมู่บ้านหรือที่ชุมชนและพาอาวุธไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 16.20 น. นายสุทธิ์ที (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี เจ้าหน้าที่ของเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไชยวาน ว่า เมื่อวันที่ 21 เม.ย. เวลาประมาณ 09.00 น. มีชาย 2 คนพยายามทำร้ายร่างกายโดยใช้มีดขว้างใส่กระจกรถยนต์และใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดและชนิด ยิงใส่รถยนต์ของผู้เสียหาย
เหตุเกิดขึ้นที่บริเวณสันภูหินลับ บริเวณสามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ ม.6 ต.โพนสูง อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี โชคดีที่ตนเองรอดตายจากคมกระสุนมาได้ อยากให้ตำรวจติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนสาเหตุยังไม่รู้เพราะเรื่องอะไร
ต่อมา พ.ต.อ.รัฐพลชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกสืบสวนหาตัวคนร้ายจับกุมได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้านบ้านโนนสมบูรณ์ ต.โพนสูง อ.ไชยวาน พร้อมยึดอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ คือ 1.อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก 2.อาวุธปืนชนิดประกอบเอง (ปืนแก็ปยาว) 2 กระบอก 3.เครื่องกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 12 นัด และ 4.ปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก
โดยผู้ก่อเหตุทั้งหมด 3 ราย ให้การรับสารภาพ คือ นายบุญศรี ผู้เป็นพ่อและเป็นคนยิงอาวุธปืนลูกซองยาวใส่รถของลูกเขย ส่วนนายแสวง ลูกชายของนายบุญศรีและเป็นผู้ก่อเหตุขว้างใส่รถน้องเขย และ น.ส.ราตรี น้องสาวของนายแสวง และเป็นภรรยาของนายสุทธิ์ที และเป็นคนวางแผนฆ่าสามีตัวเอง โดยทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน พร้อมกับนำตัวทั้งหมดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ซึ่งน.ส.ราตรีขณะตำรวจเข้าจับกุมได้ถึงกับร่ำไห้บอกว่า ใครไม่เจอกับตัวเองไม่รู้หรอกว่าหัวอกผู้หญิงเป็นอย่างไร อยากให้เข้าใจบ้าง สามีตัวเองแท้ ๆ แอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลานสาวของตนเองซึ่งเป็นลูกสาวของพี่ชายคือนายแสวง ทำอย่างนี้ได้ไง ทั้งผัวและหลานสาว เราเลี้ยงดูแลมาทั้งสองคน ผู้หญิงคนไหนเจอแบบนี้ก็คงรับไม่ได้
น.ส.ราตรี กล่าวต่อว่า ตนก็เคยเตือนสามีอย่าไปยุ่ง และบอกหลานสาวอย่าไปยุ่งกับสามี แต่ทั้งคู่ห้ามเท่าไรก็ไม่ฟัง มันเจ็บช้ำใจเหมือนหัวใจถูกเหล็กแหลม ๆ ทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา ผัวมามีชู้กับหลานสาวทั้ง ๆ ที่อยู่บ้านเดียวกัน นั่งร้องไห้ทุกวัน
พ.ต.อ.รัฐพลชัย กล่าวว่า มูลเหตุของ 3 พ่อลูกที่ก่อเหตุหวังจะฆ่านายสุทธิ์ทีครั้งนี้ เนื่องจากน.ส.ราตรี ซึ่งเป็นภรรยากับนายสุทธิ์ที จับได้ว่าสามีตัวเองไปเป็นกิ๊กกับน.ส.อ้อม (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ และเป็นลูกสาวของนายแสวง พี่ชายที่ทำงานที่จ.ระยอง วันเกิดเหตุน.ส.ราตรีได้ใช้มือถือของหลานสาววางแผนหลอกให้นายสุทธิ์ที สามีมาพบที่บริเวณแยกสันภูหินลับ บริเวณสามแยกขึ้นภูเขาต้องมนต์ โดยทักแชทไปหา และได้โทรเรียกให้นายแสวงพี่ชายที่ทำงานอยู่จ.รระยองกลับมาบ้าน
วันเกิดเหตุพอนายสุทธิ์ทีขับรถปิคอัพมาหา ปรากฏว่านายแสวงที่หลบอยู่พุ่มไม้ได้ขว้างมีดใส่กระจกรถยนต์ด้านหลังจนแตก จากนั้น นายบุญศรีซึ่งเป็นพ่อได้ใช้อาวุธปืนลูกซองยิงไปที่รถของลูกเขย จนมีรอยกระสุนหลายแห่งประตูด้านข้างด้านซ้าย จังหวะนั้นนายสุทธิทีตกใจได้ขับรถหนีออกไปอย่างรวดเร็ว และมาแจ้งความกับตำรวจสภ.ไชยวานว่ามีคนซุ่มยิง ตำรวจได้สืบสวนหาสาเหตุจนจับกุมได้ทั้งหมด
สาเหตุคือ น.ส.ราตรีเมื่อจับได้ว่า สามีของตนเองแอบไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับน.ส.อ้อม ซึ่งเป็นลูกสาวของพี่ชาย มานานหลายปี แม้บอกให้ทั้งคู่เลิกเท่าไรก็ไม่ยอม และน.ส.ราตรีเคยไปแจ้งความที่สภ.ศรีธาตุให้ดำเนินคดีกับสามีในข้อหาพรากผู้เยาว์ด้วย อาจจะคับแค้นใจที่ถูกสามีสวมเขาแบบนี้ จึงวางแผนฆ่าสามีดังกล่าว หลังจากนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้ที่เกิดเหตุ ประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจได้ควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวนสภ.ไชยวานเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป